วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว เปิดมณฑลพิธีภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง เนื่องในงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว เปิดมณฑลพิธีภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง เนื่องในงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568 

พร้อมจัดบริการอาหารเจแก่สาธุชนฟรี ตั้งแต่วันนี้ - 29 ตุลาคม 2568 

ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ


     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ คณะกรรมการ ผู้ช่วยกรรมการ ร่วมในพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว (เทพเจ้า 9 องค์ หรือนัยหนึ่ง คือ ดาวพระเคราะห์ทั้ง 9 ดวง) เปิดมณฑลพิธีงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568 โดยคณะสงฆ์อนัมนิกาย วัดอุภัยราชบำรุง (วัดญวนตลาดน้อย) โดยมี ดร.เสาวนีย์ เตชะไพบูลย์ ภริยาประธานกรรมการ ผู้บริหาร ศิษยานุศิษย์ สาธุชน เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครมูลนิธิฯ ร่วมในพิธี ณ ภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568



     เนื่องในเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนศิษยานุศิษย์และสาธุชนทุกท่าน ร่วมถือศีล อิ่มบุญ อิ่มใจ ศีลกินผัก ละเว้นเนื้อสัตว์ โดยตลอดเทศกาลกินเจ มูลนิธิฯ จัดให้มีบริการอาหารเจ [บรรจุใส่ถุง] แก่ประชาชนฟรี วันละ 2 มื้อ (เช้า และ กลางวัน) เริ่มมื้อเที่ยงของวันที่ 20 ตุลาคม - 29 ตุลาคม 2568 ณ บริเวณทางเข้าสำนักงานมูลนิธิฯ ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ขอความกรุณาประชาชนผู้เข้ารับบริการอาหารเจ นำถุงหิ้ว/ถุงผ้า มาบรรจุอาหารด้วยทุกครั้ง

     นอกจากนี้ ขอเชิญทุกท่านสักการะหลวงปู่ไต้ฮง เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยระหว่าง 21-29 ตุลาคม 2568 จะมีพิธีสวดชัยมงคลคาถา ภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง โดย คณะสงฆ์อนัมนิกาย วัดอุภัยราชบำรุง (วัดญวนตลาดน้อย) รวมทั้งขอเชิญทำบุญประทีปโคมไฟ (เต็งลั้ง) ถวายหลวงปู่ไต้ฮงเพื่อความเจริญรุ่งเรือง

     และในวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 เวลา 18.00 น. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดจัดพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์รอบนอกศาลเจ้าไต้ฮงกง ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากเทพเจ้าเพื่อเป็นสิริมงคล โดยเชื่อว่าเมื่อรับพรจากเทพเจ้าแล้ว จะทำให้จิตใจเบิกบาน ผ่องแผ้ว มีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง จึงขอเชิญชวนสาธุชน ร่วมพิธีในวันและเวลาดังกล่าว [ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน ผู้มีจิตศรัทธาที่ประสงค์เข้าร่วมพิธี โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทาง พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าร่วมพิธี

ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2568

วีระ-สารวัตรแรมโบ้ ลุย จ.สระแก้ว ฟาดรัฐ 40 ปี นิ่งเฉย ไม่ทำอะไร

วีระ-สารวัตรแรมโบ้ ลุย จ.สระแก้ว

ฟาดรัฐ 40 ปี นิ่งเฉย ไม่ทำอะไร

ชาวบ้านต้องจัดการทวง บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จากเขมรคืน


     บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว เป็นของไทย เดิมใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวให้หนีภัยเขมรแดง มีคนไทยในพื้นที่ต้องเสียพื้นที่นาให้เขมรเหล่านี้เข้ามายึดครองเป็นของตนเองและพวกพ้องที่อพยพกันเข้ามาเกือบ 40 ปีมาแล้ว มันนานจนเขมรเขาขี้โกง อ้างว่าอยู่มานานแล้วทำที่อยู่อาศัยแบบถาวร จะมาอ้างว่าครอบครองปรปักษ์ก็คงไม้ได้ เพราะเขาคือคนต่างชาติไม่ใช่คนไทย ไทยไม่ได้ให้สิทธิ์ต่างชาติเข้ามาครอบครอง ไทยอดทนอดกลั้นมานานหลายปี ช่วยเหลือแท้ๆ เขมรยังรุกล้ำ แล้วมันถึงเวลานานแล้วที่จะเอาพื้นแผ่นดินของไทยกลับคืนมา

     วีระ ผนึกกำลัง "สารวัตรแรมโบ้" พ.ต.อ. สุรเดช เจษฎาเดช บุก   บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ทวงคืนผืนแผ่นดินไทยที่เขมรยึดครองมานานเกือบ 40 ปี พร้อมให้กำลังใจทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ ยืนหยัดจะร่วมกับชาวบ้านทวงคืนผืนแผ่นดินไทยคืนมาให้จงได้


     วีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอรัปชั่น กล่าวว่า แผ่นดินไทย ไม่ยอมยกให้เขมรเด็ดขาด  ที่นี่มันแผ่นดินไทย เขมรมันอยู่แผ่นดินไทยมา 40 กว่าปีแล้ว เขมรมันบุกรุก เจ้าของบ้านจะทวงคืนมันผิดตรงไหน รัฐบาลไทย กองทัพไทย จัดการไม่ได้ ก็ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องจัดการ  อย่ามาใช้คำพูดว่า ม๊อบจะไปบุกไปชนเขา มันไม่ใช่ม๊อบชนม๊อบ อย่าไปพูดอย่างนั้น  เราต้องจัดการอย่างเด็ดขาด เพื่อทวงผืนแผ่นดินไทยของเรา

     พ.ต.อ. สุรเดช เจษฎาเดช หรือ "สารวัตรแรมโบ้" กล่าวว่า วันนี้เรามวลชนคนไทย ลุยเลย! จัดการเลย พวกนี้มันดื้อด้าน มันเป็นลูกหลานพระยาละแวก ในอดีตพระยาละแวก (กษัตริย์เขมร) ถูกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) จับตัวและตัดพระเศียรเอาเลือดสดมาล้างพระบาทพระองค์ท่าน โทษฐานทรยศ เนรคุณต่อพระองค์ท่านและแผ่นดินสยามประเทศ แอบลักลอบยกกองทัพเขมรเข้าตีกรุงศรีอยุธยาถึง 2 ครั้ง ในยามที่กรุงศรีอยุธยามีศึกสงครามติดพันกับกรุงหงสาวดีของพม่า 

หากเที่ยวหน้าถ้ามีรบกันอีกครั้ง ทหารกองทัพไทยเราสูญเสียทหารกล้า 1 นาย เขมรจะต้องสูญเสียกว่า 1,000 ศพ ผมมั่นใจว่าทางกองทัพไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดน่าจะลุยเลย ผมมั่นใจเลย มันต้องออก ไม่ออกไม่ได้ ผมเชื่อในฝีมือและขีดความสามารถของกองทัพไทยอันเกรียงไกรไม่แพ้ชาติในโลก โดยเฉพาะในเรื่องของความรักชาติรักแผ่นดิน มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว และความสามารถเฉพาะตัวสูงมาก ถ้าทำจริงทุกอย่างจบ ของพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยากกว่านี้ ใช้เวลาแค่ 4-5 วัน ยังยึดได้เกือบหมดเลย ถ้ารัฐบาลไม่ตกลงหยุดยิง ผมมั่นใจว่าแก่บุกไปถึงพนมเปญ ถ้าให้เวลา ผมฝากถึงทางผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและทางกองทัพ ข้าราชการทหาร ตำรวจ ทั้งรัฐบาล ว่า เราต้องเอาอย่างจริงจัง ให้เขมรรู้ศักยภาพของเรา

      ครั้งหนึ่งคุณวีระ สมความคิด เคยมาช่วยชาวบ้านหนองจาน ชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว พร้อมชาวบ้านและคณะ เข้าไปตรวจดุูในเขตพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้า ถูกทหารเขมรพร้อมอาวุธหลายคนเข้าจับกุมในเขตอธิปไตยของแผ่นดินไทย ในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2557 ไม่มีผู้ใดในรัฐบาลยื่นมือเข้าช่วย คุณวีระและคณะถูกดำเนินคดีขังคุกนานถึง 3 ปี 8 เดือน ในขณะจองจำมีพวกกลุ่มคนเขมรในเรือนจำจ้องทำร้ายและฆ่าปิดปากหลายครั้ง จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด





วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ มอบเงินช่วยเหลือกรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลัง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ 

มอบเงินช่วยเหลือกรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลัง

จากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางจา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ พร้อมด้วย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มอบเงินช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับผลกระทบกรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลังจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังละ 12,000 บาท รวมจำนวน 32 หลัง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 384,000 บาท (สามแสนแปดหมื่นสี่พันบาทถ้วน) โดยมี อาสาสมัครเฉพาะกิจ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ คณะผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ เป็นผู้สำรวจ ประสานงาน และร่วมในพิธี ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568

      โดยวานนี้ (วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ปวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 256ปไระชาชนในพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับผลกระทบกรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวม 4 หลัง ณ ที่ว่าการอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี และในวันพรุ่งนี้ (วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิฯ กำหนดลงพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบกรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว จำนวน 3 หลัง ณ ที่ว่าการอําเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เป็นลำดับถัดไป

      รวมงบประมาณดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือชาวอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ กรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลังจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งสิ้น 468,000 บาท (สี่แสนหกหมื่นแปดพันบาทถ้วน)

      เมื่อเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ได้เร่งมอบหมายให้คณะกรรมการ นำทีมสาธารณภัยลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ให้แก่ผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากนั้นได้เข้ามอบเงินปลอบขวัญนายละ 10,000 บาท พร้อมกระเช้าสุขภาพ ให้แก่ทหารกล้าและประชาชนที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่พักรักษาตัวอยู่ ณ โรงพยาบาลในขณะนั้น และล่าสุดมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือกรณีบ้านพังเสียหายทั้งหลังๆ ละ 12,000 บาท รวมงบประมาณที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจจากผู้มีจิตศรัทธา สู่ทหารกล้าและประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันคิดเป็นมูลค่ากว่า 5.3 ล้านบาท ซึ่งมูลนิธิฯ ยังคงติดตามสถานการณ์เพื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือตามนโยบายการดำเนินงานของแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต่อไป

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่-อาสาสมัครทุกท่าน ทุกหน่วย ที่ปฏิบัติภารกิจ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้ทุกท่านปลอดภัย และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ววัน

ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจwww.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung

.## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## 

#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568

สุโขทัย ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์ชาวไทดำ ในงานยิ่งใหญ่ “เปิดโลกไทดำ นำสู่วัฒนธรรม ท่าฉนวน @สุโขทัย”

สุโขทัย ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์ชาวไทดำ

ในงานยิ่งใหญ่ “เปิดโลกไทดำ นำสู่วัฒนธรรม ท่าฉนวน @สุโขทัย” 

วันที่ 27 – 28 ก.ย. 68 นี้

      สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมของชาวสุโขทัยในงาน “เปิดโลกไทดำ นำสู่วัฒนธรรม ท่าฉนวน @สุโขทัย” 27 – 28 กันยายน 2568 ณ ศูนย์ศึกษาไทดำบ้านนำเรื่อง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย พบนิทรรศการวิถี “ไทดำ” บูธสินค้าท้องถิ่น ร่วมชมสาธิตและร่วมชิมอาหารพื้นบ้านสุดประทับใจ และโชว์ดนตรีพื้นบ้านสุดพิเศษจาก “อาร์ ระเบียบศิลป์” และวง “เดอะโซ่ง” แล้วคุณจะตกหลุมรักสุโขทัยในมุมที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน

     จังหวัดสุโขทัย ร่วมกับ อำเภอกงไกรลาศ และ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าฉนวน เตรียมจัดงาน “เปิดโลกไทดำ นำสู่วัฒนธรรม ท่าฉนวน @สุโขทัย” ระหว่างวันที่ 27 - 28 กันยายน 2568  ที่ศูนย์ศึกษาไทดำบ้านนำเรื่อง ตำบลท่าฉนวน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย 

       การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวไทดำที่สืบทอดกันมายาวนานให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง งานครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามามีส่วนร่วมและสัมผัสวิถีชีวิตชาวไทดำที่แท้จริง ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการชมนิทรรศการ การชมการแสดงรำและศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น การลิ้มรสอาหารดั้งเดิม และการร่วมทำกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม เช่น การแต่งชุดไทดำ การทอผ้า และการละเล่นพื้นบ้าน 

       “เปิดโลกไทดำ นำสู่วัฒนธรรม ท่าฉนวน @สุโขทัย” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 28 กันยายน 2568 ณ ศูนย์ศึกษาไทดำบ้านนำเรื่อง ตำบลท่าฉนวน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย โดยภายในงานจะมีการเปิดบูธสินค้าท้องถิ่นของชาวท่าฉนวน, การเปิดสาธิตและเปิดให้ชิมอาหารพื้นบ้าน, กิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ “กินข้าววง” ระหว่างชาวบ้านและนักท่องเที่ยว, การแสดงรำวงจากชุมชนไทดำ, การแสดงดนตรีคอนเสิร์ตจากศิลปิน “อาร์ วงระเบียบศิลป์” และ “วงเดอะโซ่ง”   

      สำหรับงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนโดย จังหวัดสุโขทัย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, องค์การบริหารส่วนตำบลท่าฉนวน, อำเภอกงไกรลาศ, ประธานกลุ่มไทดำแต่ละจังหวัด, ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลท่าฉนวนและ บริษัท ไอ-แคนนาบิซ จำกัด

      โดยงานครั้งนี้เป็นมากกว่าการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม หากแต่เป็นการจัดงานที่จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยเปิดประตูให้ผู้มาเยือนก้าวเข้าสู่โลกของชาวไทดำอย่างแท้จริง ทั้งในมิติการเรียนรู้ การท่องเที่ยว และการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เติบโตไปพร้อมกับความเข้มแข็งของชุมชน โครงการครั้งนี้จะช่วยต่อยอดให้ตำบลท่าฉนวนและอำเภอกงไกรลาศกลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้วัฒนธรรมไทดำของจังหวัดสุโขทัย และสร้างชื่อเสียงให้เป็นหนึ่งในจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่โดดเด่นของประเทศไทยต่อไป




วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้ เนื่องในงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้

เนื่องในงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568


     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้ เนื่องในงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นแห่งที่ 2 ณ คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก และ ดร.เสาวนีย์ เตชะไพบูลย์ ภริยาประธานกรรมการ จัดพิธีแจกข้าวสารพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค เนื่องในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 ให้กับประชาชนผู้ยากไร้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาศรีราชา จำนวน 2,500 ชุด สิ่งของที่แจกประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำปลา น้ำมันพืช และขนม บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ พร้อมมอบค่าพาหนะคนละ 200 บาท ซึ่งในปีนี้จัดค่าพาหนะเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ยากไร้ สอดรับกับค่าครองชีพในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้น โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย แพทย์จีนสมชาย จิรพินิจวงศ์ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว, คณะพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา, เครือสหพัฒน์, บริษัท แปซิฟิคพาร์ค ศรีราชา จำกัด, บริษัท เบสท์แฟคตอรี่ เอาท์เล็ท จำกัด, สนามกอล์ฟบีเอสซี พร้อมด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ร่วมในพิธี ณ บริเวณคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568

     และในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568 มูลนิธิฯ มีกำหนดการแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ยากไร้ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ รวมทั้งมอบให้แก่องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคเนื่องในประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 แก่ประชาชนทั้งสิ้น 3 จังหวัด คิดเป็นมูลค่า 15.5 ล้านบาท

     ประเพณีทิ้งกระจาด  เป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่ปฏิบัติสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยมูลนิธิฯ ได้ปฏิบัติสืบเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 80 ปี เพราะถือว่าเป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งที่เป็นญาติและไม่เป็นญาติพร้อมกับทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ ในช่วงประเพณีแต่ละปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จะมีผู้มีจิตศรัทธานำเครื่องเซ่นไหว้ อาทิ ข้าวสารอาหารแห้ง และอื่น ๆ มากราบสักการะหลวงปู่ และองค์ไต่สือเอี้ย เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล และสะเดาะเคราะห์ ซึ่งมูลนิธิฯ จะรวบรวมไว้ไปสมทบกับสิ่งของที่มูลนิธิฯ จัดซื้อเพิ่มเติม เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ยากไร้ โดยมูลนิธิฯ ได้มีการพัฒนาแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้ ให้เข้ากับการใช้งานในแต่ละยุคแต่ละสมัย

     ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอบุญบารมีองค์หลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ดลบันดาลให้ผู้มีจิตศรัทธา เจ้าหน้าที่  อาสาสมัคร และครอบครัวของทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในงานมหาบุญมหากุศลนี้มีความสุข ความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดปี ตลอดไป

“มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ ในงาน "ประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568"

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ 

ในงาน "ประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568"

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานมหาบุญ ในงาน "ประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2568" ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ พร้อมทำทานให้ผู้ยากไร้ ระหว่างวันนี้ - 19 กันยายน พ.ศ. 2568  

โดยสามารถร่วมทำบุญได้ตามช่องทางดังนี้ :-

🔸สักการะหลวงปู่ไต้ฮงและทำบุญบริจาคข้าวสาร ได้ที่ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ 

📍วันที่ 23 สิงหาคม - 17 กันยายน 2568 เวลา 07.00 - 19.00 น.

📍วันที่ 18 กันยายน 2568 เวลา 07.00 - 16.00 น.

🔸 ทำบุญบริจาคข้าวสารผ่านเว็บไซต์ทิ้งกระจาดออนไลน์ :  https://pttfny.net/newsh 

🔸โอนผ่าน บ/ช ออมทรัพย์ชื่อ บ/ช มูลนิธิฮั่วเคี้ยวป่อเต๊กเซี่ยงตึ้ง หรือมูลนิธิปอเต็กตึ้ง

- ธ.กสิกรไทย เสือป่า เลขที่ 027-2-07939-0

- ธ.กรุงเทพ พลับพลาไชย เลขที่ 001-0-00370-5

- ธ.กรุงไทย ราชวงศ์ บี เลขที่ 004-1-00811-1

- ธ.ไทยพาณิชย์ เฉลิมนคร เลขที่ 037-2-56513-4

- ธ.กรุงศรีอยุธยา สามแยก เลขที่ 046–1-00810-9

- ธนาคารทหารไทยธนชาต เลขที่ 091-2-28500-4

     กำหนดแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้ :-

🔹วันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 - 12.00 น. ที่สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว # จังหวัดสมุทรสาคร

🔹วันที่ 12 กันยายน 2568 เวลา 10.00 - 12.00 น. ที่คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาศรีราชา # จังหวัดชลบุรี

🔹วันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 06.00 - 12.00 น. ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย #กรุงเทพฯ

# ทิ้งกระจาดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง # สักการะหลวงปู่ไต้ฮง  

# ทำบุญให้ผู้ล่วงลับทำทานให้ผู้ยากไร้


 

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568

"บขส." เปิดตัวรถโดยสารใหม่ มาตรฐานยุโรป Euro 5 พร้อมโชว์ชุดพนักงานต้อนรับ โทนสีชมพูสดใส

"บขส." เปิดตัวรถโดยสารใหม่ มาตรฐานยุโรป Euro 5

พร้อมโชว์ชุดพนักงานต้อนรับ โทนสีชมพูสดใส 

ยกระดับขนส่งสาธารณะ สะดวก สบาย ปลอดภัย 

ระบุรถโดยสารใหม่จะทยอยวิ่งให้บริการประชาชนภายในเดือนกันยายนนี้


     นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เป็นประธานงานเปิดตัวรถโดยสารใหม่ "Change For The Better : เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า" โดยมี นายอรรถวิท รักจำรูญ  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คณะกรรมการบริษัทฯ ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กรมการขนส่งทางบก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การถไฟแห่งประเทศไทย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ บริษัท รถไฟฟ้า ร ฟ.ท. จำกัด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย นายสหรัฐ โพธิโต รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพ สมาคมท่องเที่ยวต่างๆ  อาทิ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) โดย ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์, คุณอนัญญา แก้วชินพร อุปนายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย คุณจิรภัทร แก้วชินพร ประชาสัมพันธ์ สมาคมฯ คุณพรปวีณ์ วิชิตนาค และคุณพิมลวรรณ ครองสิงห์ ที่ปรึกษาสมาคมฯ ตัวแทนนายวัสน์พล อรรถพรธนเสฐ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย, คุณศศิวัณย์ ศรีพรหม สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1, สำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม โดยนายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักข่าวฯ, สื่อมวลขน และอินฟลูเอนเซอร์ เข้าร่วมจำนวนมาก ณ บริเวณชานชาลา 2 ด้านทิศใต้ อาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568


     นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. เปิดเผยว่า บขส. ได้เปิดตัวภาพลักษณ์ในรูปแบบของรถโดยสาร ชุดพนักงานต้อนรับ พนักงานขับรถหญิง ซึ่งมาในโทนสีชมพู ซึ่งบ่งบอกถึงความอบอุ่น สดใส อ่อนโยน และเป็นมิตร ตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสารยุคใหม่ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับด้านการบริการของการเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ ที่มีความทันสมัย สะดวกสบาย และปลอดภัย

     รถโดยสารใหม่ที่นำมาให้บริการมีขนาดความยาว 12 เมตร 3 มาตรฐาน ได้แก่ 1.รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 VIP (ม.1ก) จำนวน 24 ที่นั่ง 2.รถโดยสารปรับอากาศ ชั้น 1 พิเศษ (ม.1พ) จำนวน 32 ที่นั่ง และ 3.รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 (ม.1ข) จำนวน 36 ที่นั่ง ใช้เครื่องยนต์มาตรฐาน Euro 5 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลพิษทางอากาศ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบ GPS กล้อง CCTV และภายในรถจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่น ห้องน้ำ ช่องเก็บสัมภาระ ช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จไฟ และบริการ WIFI ฟรี โดยจะนำมาให้บริการประชาชนในทุกเส้นทางทั่วประเทศ เพื่อใช้ทดแทนรถโดยสารเช่าที่หมดสัญญาและรถโดยสาร บขส. ที่ปลดระวาง ปัจจุบัน บขส. มีรถโดยสารให้บริการทั้งหมด 254 คัน



      สำหรับการดำเนินการเช่ารถโดยสารใหม่ จำนวน 311 คัน ระยะเวลาเช่า 5 ปี วงเงินรวม 3,018,126,600 บาท โดยมี บริษัท อิทธิพร อิมปอร์ต จำกัด เป็นคู่สัญญา ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เมื่อแล้วเสร็จจะทยอยส่งมอบรถโดยสารแบ่งเป็น 4 งวด งวดแรกจะรับรถโดยสาร จำนวน 96 คัน และนำมาให้บริการประชาชนภายในเดือนกันยายน 2568 งวดที่ 2 ส่งมอบรถโดยสาร จำนวน 96 คัน ภายในเดือนตุลาคม 2568 งวดที่ 3 ส่งมอบรถโดยสาร จำนวน 78 คัน ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 และงวดที่ 4 ส่งมอบรถโดยสารจำนวน 41 คัน ภายในเดือนธันวาคม 2568


     นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ประชาชนและผู้ใช้บริการ บขส. ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของการพัฒนาระบบขนขนส่งสาธารณะในทิศทางที่ดีขึ้น ตั้งแต่มีการพัฒนาสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ปรับปรุงห้องน้ำ ลิฟท์โดยสาร ช่องจำหน่ายตั๋วโดยสาร บริหารพื้นที่ชานชาลา โดยให้รถโดยสารออกตรงเวลา จัดการเดินรถเชื่อมต่อระบบบราง ขสมก. และเพิ่มจุดบริการรถแท็กซี่ให้บริการประชาชน


     ซึ่ง บขส. ต้องมีการปรับตัว รองรับการเดินรถระบบฟิดเดอร์ เชื่อมต่อการเดินทางทุกโหมด ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ อย่างไร้รอยต่อ สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศของกระทรวงคมนาคม และให้เกิดประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนสูงสุดต่อไป รวมทั้งจะช่วยยกระดับคุณภาพการให้บริการประชาชนให้ได้รับประโยชน์สูงสุด สะดวก สบาย และปลอดภัย ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม

       สามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง หรือจองตั๋วของ บขส. ได้ที่เว็บไซต์ บขส. https///tcl9 9 webtransport.co.th, 

Application E - ticket, Facebook Page : บขส (www.facebook.com/BorKorSor99), 

Line : บขส.99 (id : @TCL99) 

และช่องจำหน่ายตั๋วโดยสาร บขส.ทั่วประเทศ 



มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว เปิดมณฑลพิธีภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง เนื่องในงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว เปิดมณฑลพิธีภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง เนื่องในงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568  พร้อมจัดบริการอาหารเจแก...