วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568

รัตนโกสินทร์จะสิ้นคนดีแล้วหรือ! บทความชวนให้คิด ในมุมมองของ...อัมรินทร์ คอมันตร์

รัตนโกสินทร์จะสิ้นคนดีแล้วหรือ! 

บทความชวนให้คิด 

ในมุมมองของ...อัมรินทร์ คอมันตร์ 
   "ไทยเผชิญวิกฤติภูมิอากาศ ปัจจัยวิกฤติเศรษฐกิจ ภัยพิบัติ บั่นทอนประเทศ" ข้อความพาดหัวดังกล่าวข้างต้น ไม่รู้ว่าจะตําหนิใคร เลยโทษภูมิอากาศเป็นปัจจัยบั่นทอนประเทศ คิดได้แค่นี้หรือ? มิน่าถึงปล่อยพวกนักการเมืองบางคนกินบ้านกินเมือง เล่นละครการเมืองให้ดูบนความทุกข์ยากของประชาชน
     ต่อมาอีกวัน ก็มีข้อความพาดหัวว่า เสียหาย 5 แสนล้าน ชูพักหนี้ เติมเงินประชาชน รัฐบาลจัดเยียวยา “นํ้าท่วมใต้ ” สิ่งที่รัฐบาลทําคือ การเอาเงินภาษีของประชาชนไปกู้หนี้ยืมสินมาให้ประชาชน แบกภาระหนี้ต่อไปถึงลูกถึงหลาน แทนที่ที่จะปกป้อง ส่งเสริมการทํากินของเขา เตรียมพร้อมในภัยพิบัติ ไม่ให้ประชาชนต้องล้มละลาย เดือดร้อนอย่างที่เกิด จะยังคิดไม่ออกหรือไง?


     ความเป็นจริงแล้วยุคนี้เป็นเรื่องที่คนเราสามารถรับรู้ถึงสภาพวิกฤติของภูมิอากาศได้ล่วงหน้าเสมอ และผู้บริหารประเทศ นักการเมือง ข้าราชการต่างๆ ย่อมจะรับรู้ได้ หาทางป้องกันร่วมกันกับประชาชน ร่วมกันปกป้องไม่ให้ภัยพิบัติเกิดขึ้น สร้างความเสียหาย นํ้าท่วม ภัยแร้ง แก่ประชาชนได้น้อยที่สุด เช่น การไม่สร้างถนนปิดทางนํ้าหมด เพื่อประโยชน์ของนายทุนบางจําพวก มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า การบริหารจัดการอย่างมีการวางแบบแผนไว้ล่วงหน้า รวมทั้งการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องวิบัติทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้ที่ควรได้รับการตําหนิมากที่สุดคือ พวกคณะรัฐบาลนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น  ที่มุ่งแต่ประโยชน์ของตนเองและพรรคพวกเป็นส่วนใหญ่ และแสดงให้เห็นถึงประสิทธิ ภาพของการบริหารจัดการประเทศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
     วิกฤติภูมิอากาศพอที่จะบรรเทาได้ แต่วิกฤติความชั่วช้าของนักการเมืองและผู้บริหารประเทศบางคนมันยากที่จะแก้ไข รวมทั้งข้าราชการบางคนที่ไร้ประสิทธิภาพ คนเลวๆเหล่านี้จะไม่ยอมรับผิดชอบ อย่างดีก็กล่าวขอโทษต่อประชาชน มันคือคําพูดลมๆ แล้งๆ พอให้ประชาชนได้ยิน แต่ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบปัญหา โดยรัฐบาลอัดเยียวยานํ้าท่วมภาคใต้ ฯลฯ เพื่อการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
       การยุบสภาเร็วๆ นี้ และจัดการเลือกตั้งใหม่นั้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความยากจนค่นแค้นของประชาขนเลย พวกนักการเมืองตระบัดสัตย์ก็จะกลับเข้ามาอีก การใช้เงินซื้อเสียงจะเกิดขึ้นอีก การเรียกร้องแม้กระทั่ง MOU ที่ตัองยกเลิกเพราะพวกที่ไปทําไว้มันหวังเอาประโยชน์ของชาติไปแลกกับผลประโยชน์ของพวกมันเอง
      ทุกวันนี้มันก็ยังมีพรรคพวกอยู่ในคณะรัฐบาล แล้วคนในรัฐบาลก่อนเป็นใหญ่ว่าจะเลิก แต่ก็ตระบัตสัตย์ มิหนําซํ้ายังมีนิติการบริการชั่วๆ ให้ประชาชนลงมติจะเลิกหรือไม่ มันโยนความรับผิดชอบไปให้ประชาชนอีก ทั้งๆ ที่ตอนทํา MOU มันใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ไม่ผ่านสภา ไม่ผ่านสถาบันตามรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่ต้องเสียแผ่นดินผลประโยชน์ของชาติ ประชาธิปไตยบนพื้นฐานของการโกหก ตลบแตลง ตระบัตสัตย์ ขายชาติขายแผ่นดิน มีโทษตามกฎหมายอาญา ม. 191 จําคุกถึงประหารชีวิต คงดําเนินต่อไป รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเกือบทั้งหมด สร้างความวิบัติให้ประเทศชาติ ประชาชน มาโดยตลอด รัฐบาลที่มาจากรัฐประหารแรกๆ ก็ดูจะดีลงท้ายก็แย่ ที่ดีๆ สร้างผลงานไว้มากมายแต่ไปมัวแต่จับจ้องจับผิดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อใดที่นักการเมืองมีความซื่อสัตย์ไม่ซื้อเสียง ทํางานเพื่อประโยชน์ขอประชาชนและความมั่นคงด้วยความซื่อสัตย์ เมื่อนั้นประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีการเลือกตั้ง มีผู้กํากับการเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพ ถ้ายังไม่พร้อมก็เรียกร้องให้ผู้ที่มีความซื่อสัตย์ กล้าหาญ รักชาติรักประชาชนและสถาบันเถอะ อย่าเอาพวกกระล่อน ตระบัติสัตย์ เข้ามาบริหารประเทศอีกเลย ให้ไปเปิดร้านขายข้าวผัดและกาแฟดีกว่า
"รัตนโกสินทร์จะสิ้นคนดีแล้วหรือ!"....
บทความของ อัมรินทร์ คอมันตร์" เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568

***ขอขอบคุณ ภาพ...Nation online

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งลงพื้นที่ให้กำลังใจ พร้อมแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งลงพื้นที่ให้กำลังใจ พร้อมแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค

ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย

ในพื้นที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี

     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายธฤต โอภาสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการ นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย และแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมัน น้ำปลา และขนม ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี  รวมจำนวน 500 ชุด ๆ ละ 450 บาท รวมงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้น 225,000 บาท (สองแสนสองหมื่นห้าพันบาทถ้วน)  โดยมี นายชาติชาตรี ธรรมโหร ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบางตาเถร ร่วมในพิธี พร้อมด้วย ดร.ปภัสรา เตชะไพบูลย์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบางตาเถร อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568


     เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และโรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะประสานหน่วยงานในพื้นที่พิจารณาดำเนินการฟื้นฟูหลังน้ำลดเป็นต่อไป

     นับตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2568 เป็นต้นมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแล้วทั้งสิ้น 16 จังหวัด รวมงบประมาณการช่วยเหลือไม่ต่ำกว่า 24.6 ล้านบาท


     ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้านต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

.## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

"สารวัตรแรมโบ้” รับรางวัล “๑ ปณิธานความดี เทิดไท้พระภูมีนนวมินทรา” ผู้ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ” จากอดีตนายกฯ ชวน

"สารวัตรแรมโบ้” รับรางวัล “๑ ปณิธานความดี เทิดไท้พระภูมีนนวมินทรา” ผู้ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ” จากอดีตนายกฯ ชวน
ลั่นจะทำงานรับใช้สังคม เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป


     พ.ต.อ. สุรเดช เจษฎาเดช หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนาม “สารวัตรแรมโบ้”  ประธานประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศไทย ได้เข้ารับมอบรางวัล “๑ ปณิธานความดี เทิดไท้พระภูมีนนวมินทรา” รางวัลอันทรงเกียรติสาขาผู้ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ หนึ่งในโครงการ “นวราช เชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ สร้างสรรค์พัฒนาสังคมดีเด่น ครั้งที่ 6 ประจำปี 2568” ซึ่งจัดโดยมูลนิธิคุ้มเกล้าเยาวชนคนสร้างชาติ จากนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี คนที่ 20 และอดีตประธานรัฐสภาและสภาผู้แทนราษฎร ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568



      พ.ต.อ. สุรเดช เจษฎาเดช หรือ “สารวัตรแรมโบ้”  ประธานประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศไทย เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะตำรวจมือปราบน้ำดี มือขาวใสสะอาด เน้น "คุณธรรมความถูกต้อง ยุติธรรม" เป็นหลักการ เป็นอดีตตำรวจกองปราบขาลุุยผู้โด่งดังในอดีต กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ที่ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ พร้อมชน ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
      "สารวัตรแรมโบ้" มักลุยบุกจับกุมผู้ต้องหาสำคัญในคดีต่างๆ มากมายแบบไม่สนหน้าหน้าอินทร์หน้าพรหม  บางครั้งก็บุกเดี่ยวหรือมีลูกน้องคู่ใจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า “สารวัตรแรมโบ้” เขาคือสายเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง



      ปัจจุบันดำเนินชีวิตตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เป็นประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดแห่งประเทศไทย และทำงานรับใช้สังคม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป
       "สารวัตรแรมโบ้" กล่าวหลังได้รับรางวัลว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับรางวัล “๑ ปณิธานความดี เทิดไท้พระภูมีนนวมินทรา” สาขา เกียรติคุณผู้ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ และขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลนี้ทุกคน นับว่าเป็นกำลังใจอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำความดี ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ
      ตนตั้งปฎิธานไว้ว่า "ตนจะทำความดี มีคุณธรรม รับใช้สังคม สร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างเต็มกำลัง สุดความสามารถ เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ของสังคมต่อไป








วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ชวนเที่ยวงาน “เทศกาลเมือง (ต้อง) รอง” 28–30 พ.ย. 2568 ที่ เมืองทองธานี

ชวนเที่ยวงาน “เทศกาลเมือง (ต้อง) รอง”

28–30 พ.ย. 2568 ที่ เมืองทองธานี

ลอง ชิม ช้อป ชม ค้นหา กับ 55 จุดหมายเมืองรอง

     กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) จัดงาน “เทศกาลเมือง (ต้อง) รอง” โดย นายชัย อรุณสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ รองประธานตลาดในประเทศ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานโครงการจัดงาน

     นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ รองประธานตลาดในประเทศ สทท. ประธานโครงการฯ กล่าวว่า งาน “เทศกาลเมือง (ต้อง) รอง” เป็นการเปิด 55 เมืองรองทั่วไทยที่น่าสัมผัส น่าค้นหาจากภาคเหนือจรดภาคใต้ พร้อมนำเสนอเสน่ห์ท้องถิ่นแบบที่ต้อง “ลอง ชิม ช้อป ชม ค้นหา” มาครบจบในที่เดียว 

- ภาคเหนือ : เชียงราย, น่าน, พะเยา, แพร่, ลำปาง, ลำพูน, ตาก, อุตรดิตถ์, แม่ฮ่องสอน, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, กำแพงเพชร และอุทัยธานี

- ภาคกลาง : จังหวัดชัยนาท, ลพบุรี, สมุทรสงคราม, สิงห์บุรี, สุพรรณบุรี, ราชบุรี และอ่างทอง

- ภาคอีสาน : จังหวัดกาฬสินธุ์, ชัยภูมิ, นครพนม, บุรีรัมย์, บึงกาฬ, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สกลนคร, สุรินทร์, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, อุดรธานี, อุบลราชธานี และเลย

- ภาคตะวันออก : จังหวัดจันทบุรี, ตราด, ปราจีนบุรี, นครนายก และสระแก้ว

- ภาคใต้ : จังหวัดชุมพร, ตรัง, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ระนอง, สตูล และยะลา

      มาวางแผนเที่ยว–ช้อป–รับสิทธิ์ลดหย่อยภาษีกันได้เลย ในงาน "เทศกาลเมือง (ต้อง) รอง" วันที่ 28–30 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ  เมืองทองธานี ฮอลล์ 11–12

#เทศกาลเมืองต้องรอง #HiddenGemsThailand 


วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินสายสร้างอาชีพ สร้างชีวิตอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ให้แก่ครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดชุมพร

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินสายสร้างอาชีพ สร้างชีวิตอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ให้แก่ครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดชุมพร รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท 

พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการในพื้นที่ฟรี ณ หอประชุมแปดเหลี่ยม โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ตำบลบางลึก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร


     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์  เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ พร้อมด้วย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์  นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดชุมพร มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน ในพื้นที่จังหวัดชุมพร (จังหวัดที่ 2 ของทางภาคใต้) จำนวน 42 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,012,670 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งหมื่นสองพันหกร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) พร้อมจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผมชาย-หญิง และกิจกรรมนันทนาการ โดยมี นายเธียรชัย ชูกิตติวิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย นายสงัด พืชพันธุ์ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานร่วมในพิธี  คณะมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์  เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี  พร้อมด้วย อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายกวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร (หยวน-กวินรัฏฐ์) และนางสาวพัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์ (เกรซ-พัชร์สิตา) ร่วมในพิธี  ณ หอประชุมแปดเหลี่ยม โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ตำบลบางลึก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เมื่อวันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568


     โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน  ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยได้ดำเนินการไปแล้ว 3 ระยะ โดยกลุ่มเป้าหมายแรก ระยะที่ 1 ดำเนินการในพื้นที่ภาคกลางแล้วจำนวน 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ระยะที่ 2 ได้ดำเนินการในพื้นที่ภาคเหนือแล้วจำนวน 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ระยะที่ 3 ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัด ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเหนือ 20 จังหวัด รวม 485 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังได้มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนผู้ประสบอุทกภัย ประจำปี พ.ศ.2567 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดเชียงราย อีกจำนวน 57 ครัวเรือน รวมจำนวนครัวเรือนยากจนที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ด้วยการมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแล้วทั้งสิ้น 870 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 17 ล้านบาท รวมจำนวนครัวเรือนยากจนที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้สร้างอาชีพ สร้างชีวิต ด้วยการมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแล้วทั้งสิ้น 870 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 17 ล้านบาท  และในขณะนี้ได้พิจารณาดำเนินการพื้นที่ภาคใต้ รวม 14 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง นครศรีธรรมราช พังงา พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล กระบี่ ภูเก็ต ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส


     ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”


     ติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## 

#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน




วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568

วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ร่วมกับ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีทิ้งกระจาด (ซิโกว)

วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ร่วมกับ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีทิ้งกระจาด (ซิโกว) 

แจกเครื่องอุปโภคบริโภคและชุดยาสามัญประจำบ้านแก่ผู้ยากไร้ รวม 1,000 ชุด 

ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ


     วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร นำโดย พระศรีวิศาลคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ร่วมกับ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการฯ พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ และนายวันชิด ศิรสีห์ รองผู้จัดการใหญ่ จัดชุดเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม น้ำตาล ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลาร้า เส้นหมี่ขาว ขนม ยาสีฟัน ขนมเบ็ดเตล็ด ชุดยาเวชภัณฑ์ รองเท้า ฯลฯ บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ รวมจำนวน 1,000 ชุด รวมมูลค่ากว่า 1.6 แสนบาท เพื่อประกอบพิธีทิ้งกระจาด (ซิโกว)




แจกจ่ายให้แก่ผู้ยากไร้ โดยมี นายสมานมิตร แยงไธสง ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ร่วมในพิธี ในการนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย และอาสาสมัคร อำนวยความสะดวกแก่วัดและประชาชนที่มารับสิ่งของ ณ บริเวณเมรุด้านใต้ (สุสานหลวง) วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568



     ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก แฟนเพจwww.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung

##ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## 

#ป่อเต็กตึ๊งยึดมั่นอุดมการณ์อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว เปิดมณฑลพิธีภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง เนื่องในงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว เปิดมณฑลพิธีภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง เนื่องในงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568 

พร้อมจัดบริการอาหารเจแก่สาธุชนฟรี ตั้งแต่วันนี้ - 29 ตุลาคม 2568 

ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ


     มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ คณะกรรมการ ผู้ช่วยกรรมการ ร่วมในพิธีอัญเชิญกิ้วอ๊วงฮุกโจว (เทพเจ้า 9 องค์ หรือนัยหนึ่ง คือ ดาวพระเคราะห์ทั้ง 9 ดวง) เปิดมณฑลพิธีงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568 โดยคณะสงฆ์อนัมนิกาย วัดอุภัยราชบำรุง (วัดญวนตลาดน้อย) โดยมี ดร.เสาวนีย์ เตชะไพบูลย์ ภริยาประธานกรรมการ ผู้บริหาร ศิษยานุศิษย์ สาธุชน เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครมูลนิธิฯ ร่วมในพิธี ณ ภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568



     เนื่องในเทศกาลกินเจ ประจำปี 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญชวนศิษยานุศิษย์และสาธุชนทุกท่าน ร่วมถือศีล อิ่มบุญ อิ่มใจ ศีลกินผัก ละเว้นเนื้อสัตว์ โดยตลอดเทศกาลกินเจ มูลนิธิฯ จัดให้มีบริการอาหารเจ [บรรจุใส่ถุง] แก่ประชาชนฟรี วันละ 2 มื้อ (เช้า และ กลางวัน) เริ่มมื้อเที่ยงของวันที่ 20 ตุลาคม - 29 ตุลาคม 2568 ณ บริเวณทางเข้าสำนักงานมูลนิธิฯ ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ขอความกรุณาประชาชนผู้เข้ารับบริการอาหารเจ นำถุงหิ้ว/ถุงผ้า มาบรรจุอาหารด้วยทุกครั้ง

     นอกจากนี้ ขอเชิญทุกท่านสักการะหลวงปู่ไต้ฮง เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยระหว่าง 21-29 ตุลาคม 2568 จะมีพิธีสวดชัยมงคลคาถา ภายในศาลเจ้าไต้ฮงกง โดย คณะสงฆ์อนัมนิกาย วัดอุภัยราชบำรุง (วัดญวนตลาดน้อย) รวมทั้งขอเชิญทำบุญประทีปโคมไฟ (เต็งลั้ง) ถวายหลวงปู่ไต้ฮงเพื่อความเจริญรุ่งเรือง

     และในวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 เวลา 18.00 น. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดจัดพิธีเวียนธูปศักดิ์สิทธิ์รอบนอกศาลเจ้าไต้ฮงกง ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากเทพเจ้าเพื่อเป็นสิริมงคล โดยเชื่อว่าเมื่อรับพรจากเทพเจ้าแล้ว จะทำให้จิตใจเบิกบาน ผ่องแผ้ว มีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง จึงขอเชิญชวนสาธุชน ร่วมพิธีในวันและเวลาดังกล่าว [ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝน ผู้มีจิตศรัทธาที่ประสงค์เข้าร่วมพิธี โปรดตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทาง พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าร่วมพิธี

ติดต่อสอบถาม ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung และช่องทางอื่นๆ ที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung หรือที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

## มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##

รัตนโกสินทร์จะสิ้นคนดีแล้วหรือ! บทความชวนให้คิด ในมุมมองของ...อัมรินทร์ คอมันตร์

รัตนโกสินทร์จะสิ้นคนดีแล้วหรือ!  บทความชวนให้คิด  ในมุมมองของ...อัมรินทร์ คอมันตร์      "ไทยเผชิญวิกฤติภูมิอากาศ ปัจจัยวิกฤติเศรษฐกิจ ภ...